ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

พระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ยอมรับกับพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครศรีธรรมราช ถึงสภาพที่ถูกใส่กุญแจขังไว้ในกุฏิ กว่า 2 ปีแล้ว http://winne.ws/n16088

1.5 พัน ผู้เข้าชม
ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

ผบช.ภ. 8 ลุยทำลายแก๊งส์อิทธิพลยึดวัดเมืองคอนหลังขุดเจอศพสามเณรปลื้ม เผยเป็นแหล่งรายได้มหาศาล

ความคืบหน้าในการขุดค้นหาศพของสามเณรปลื้ม หรือนายศุภโชค อายุ 17 ปี  พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และนายตำรวจระดับสูงของ จ.นครศรีธรรมราช นำตัว นายเด่นชัย  หรืออดีตพระเด่น นายสุริยาหรือสามเณรสุริยา นำชี้จุดฝังศพพร้อมทั้งการปิดบังทำลายหลักฐานจากนั้นได้ขอขมาศพ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าขุดค้น โดยพบว่าศพของสามเณรปลื้ม อยู่ในสภาพถูกห่อด้วยจีวรและผ้านวม จากนั้นจึงส่งต่อร่างไปยังศูนย์นิติเวชจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำการชันสูตรการตายอย่างละเอียด 

อย่างไรก็ตาม พระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ยอมรับกับพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครศรีธรรมราช ถึงสภาพที่ถูกใส่กุญแจขังไว้ในกุฏิ และไม่เคยรับรู้สถานะการเงินของวัดมากว่า 2 ปี แล้ว เนื่องจากอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ฆาตกรรมสามเณรปลื้มเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น  พระเทพสิริโสภณ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นญาติกับ นางสาวปิยฉัตร และนายเด่นชัย เมื่อมีการถามว่าเหตุใดถึงเข้ามาควบคุมวัดได้อย่างเบ็ดเสร็จ พระเทพสิริโสภณเลือกที่จะนิ่งเฉยต่อคำถามนี้ 

ด้าน พล.ต.ท.เทศา  ระบุว่าวัดวังตะวันตกมีผลประโยชน์มหาศาล กลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามีภรรยาครอบงำได้ทั้งหมด แม้แต่อดีตเจ้าอาวาสก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งนี้จะต้องมีการสอบสวนพระเทพสิริโสภณ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะเข้าข่ายข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอีก 1 คดี ส่วนแหล่งผลประโยชน์ของวัด ที่กลุ่มผู้ต้องหาครอบครองจัดการอยู่นั้นมี ทั้งรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัดมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เงินสดที่ไหลเข้ามาทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ซึ่งได้จากการที่แก๊งยึดวัดได้จัดให้เช่าแผงแม่ค้ารายวัน ค่าจอดรถรายวัน และอื่น ๆ อีกหลายรายการ มีรายงานว่าไม่ปรากฏอยู่ในสถานะทางบัญชีของวัด สำหรับนางสาวปิยฉัตร นั้นเดิม พบว่ามีอาชีพขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่บริเวณหลังวัด และภายหลังได้มาบริหารจัดการภายในวัด ซึ่งมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยขณะนี้ใช้รถยนต์ราคาแพงอยู่ถึง 3 คันด้วย (อ่านต่อได้ที่: http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=787898)

ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

ปัจจุบันสิริอายุ 78 พรรษา 56 เคยดำรงตำแหน่งอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิกาย)

ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ยืนยันทำลายแก๊งอิทธิพลยึดครองวัดวังตะวันตกแล้ว และต้องถูกดำเนินคดีเด็ดขาด เริ่มต้นจากคดีสังหารสามเณรแล้วฝังภายในวัด ระบุยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกเกือบ 10 คน

วันที่ 2 มิ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ฆ่าฝังดิน “สามเณรปลื้ม” ที่วัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุดพลตำรวจโทเทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า วัดวังตะวันตกมีผลประโยชน์มหาศาล กลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามีภรรยาคือ นายเด่นชัย ภูมินิยม และนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล ครอบงำได้ทั้งหมด แม้แต่อดีตเจ้าอาวาสก็ถูกใส่กุญแจขังไว้ ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยอยู่ในสภาพห่มผ้าเหลืองเพียงอย่างเดียว กรรมการวัดไม่มี โดยขอเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากวาดล้างทำความสะอาดวัดครั้งใหญ่ และอาจมีผู้ต้องหาเพิ่มในคดีนี้อีกรวมเกือบ 10 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วน เช่น ผู้ขุด จัดหาปูน ผสมปูน ช่วยกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ

ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

สำหรับศพของสามเณรปลื้ม หรือ นายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี หลังจากที่ถูกนำขึ้นมาจากจุดฝังก็ได้ถูกส่งต่อไปยังศูนย์นิติเวช จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทำการชันสูตรการตายอย่างละเอียด รวมทั้งพิสูจน์ดีเอ็นเอให้มีความชัดตรงกับบิดามารดา โดยภายหลังจากที่ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นแล้วเก็บหลักฐานในจุดฝัง ซึ่งปรากฏทั้งการห่อศพ การเทคอนกรีตเสริมเหล็กทับบนศพก่อนที่จะฝัง รวมทั้งมีขวดน้ำมันก๊าด และอุปกรณ์ในการทำพิธีส่วนหนึ่งอยู่ที่ก้นหลุม สอดคล้องกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา

ผบช.ภ. 8 เผย กระบวนการกลุ่มอิทธิพลยึดวัดเพราะรายได้มหาศาล หลังขุดศพสามเณรปลื้ม

โดย นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น บอกว่า ไม่ได้เจตนาฆ่าสามเณรปลื้ม สาเหตุที่ทำร้ายนั้นเนื่องจากสามเณรปลื้มได้ขโมยเงินสดและทองรูปพรรณน้ำหนัก 5 บาทไป จึงพยายามทวงคืน แต่ไม่ได้ผล จึงทำร้ายเพื่อสั่งสอน แต่สามเณรปลื้มได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนพ่อสามเณรปลื้ม ยืนยันว่าไม่เชื่อว่าลูกชายจะขโมยเงิน ตามข้อกล่าวหา เพราะลูกมีนิสัยเป็นคนพูดตรง ๆ โผงผาง เท่านั้นเอง

กรณีความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริง จะได้นำมาเสนอให้ทราบต่อไป (ที่มา:http://workpointtv.com/news/34045)

อ่านข่าวย้อนหลัง: อยู่ไม่ได้ ! ถูกผีตามหลอกหลอน พระที่ลงมือฆ่าต้องเข้ามอบตัว หลังปิดเงียบ 5 เดือน พบศพสามเณรปลื้ม ฝังดิน โบกปูนหลายชั้นใต้ดินลึก 1 เมตร

แชร์