เมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายงานข่าวจาก Japan Today ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใหม่ทุกคันเป็นยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2050 ทั้งนี้หมายถึงรถอีวีไฟฟ้า 100% และรถไฮบริด 

ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆที่มีการประกาศส่งเสริมโลกสีเขียว ต้องถือว่าญี่ปุ่นมีนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ อ่อนด้อยค่อนข้างมาก

ในขณะที่ประเทศอื่นๆประกาศอย่างชัดเจนถึงปีที่จะแบนรถใช้น้ำมัน แต่ของญี่ปุ่นยังมีเยื่อใยกับรถใช้น้ำมัน โดยรวมเอารถไฮบริดที่ยังใช้น้ำมันเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในปี 2050

รัฐบาลหลายประเทศกำหนดการแบนรถใช้น้ำมันแล้ว เช่น นอร์เวย์ 2025, เนเธอร์แลนด์ 2025, อินเดีย 2030, สหราชอาณาจักร 2040, ฝรั่งเศส 2040 

ประเทศจีนยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าจะแบนรถใช้น้ำมันปีไหน แต่มีนโนบายที่แข็งขันสนับสนุนผู้ผลิตรถอีวีภายในประเทศและจากต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม มีการคาดการณ์ว่า จีนคงแบนรถใช้น้ำมันภายในปี 2030 

เยอรมันเป็นอีกประเทศที่มีรายได้มหาศาลจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ก็มีปัญหาคล้ายกับญี่ปุ่นในการกำหนดเส้นตายรถใช้น้ำมัน ก่อนหน้านี้มีการเสนอกฎหมายแบนไม่ให้ขายรถไอซีอีตั้งแต่ปี 2030 แต่มีแรงต่อต้านจากอุตสาหกรรมรถยนต์และน้ำมันซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียอยู่มาก และยังไม่มีความแน่ชัดว่าผลสุดท้ายจะแบนรถใช้น้ำมันปีไหนแน่

อเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกเช่นกัน ก็ไม่มีกำหนดการแบนรถใช้น้ำมัน ตราบใดที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเป็นเบอร์หนึ่งของอเมริกา คงไม่มีวันได้เห็นแผนการยกเลิกรถใช้น้ำมันในอเมริกาแน่ๆ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขอถอนตัวจากข้อตกลงที่กรุงปารีสที่มีการส่งเสริมโลกสีเขียวลดโลกร้อนไปแล้ว

ตามข่าวที่ออกมา ญี่ปุ่นไม่ได้ประกาศแบนรถใช้น้ำมันทั้งหมด แต่บอกว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จะผลิตออกขายทั้งหมดภายในปี 2050 จะมีแต่รถอีวีและไฮบริด แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นไฮบริดหรือปลั๊กอินไฮบริด ไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดด้วยว่ารวมรถบรรทุกหรือไม่ นั่นหมายความว่ารถไอซีอีที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมันและมีมลพิษ ยังอยู่ในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นไปได้อย่างไม่มีกำหนด

แผนการรถใหม่ที่เป็นรถอีวีในญี่ปุ่นในปี 2050 ดูเหมือนจะสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยในปัจจุบัน มีการส่งเสริมรถไฮบริดที่ยังมีเครื่องยนต์ และไทยยังค่อนข้างเมินเฉยกับรถอีวีที่ใช้ไฟฟ้า 100%

การอาลัยอาวรณ์กับเครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งในญี่ปุ่นและไทย ไม่น่าจะต้านกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ 

รถใช้น้ำมันคงอยู่ยาวได้เฉพาะประเทศด้วยพัฒนาเท่านั้น แต่ประเทศที่เจริญแล้วส่วนใหญ่จะหันไปใช้รถอีวีและแบนรถใช้น้ำมันภายใน 10-20 ปีข้างหน้า

Cr. Suttichai Taksanun