หลวงปู่มั่นเล่า เหตุการณ์ระลึกชาติว่ามีพระรูปใดบ้าง ที่เคยมี"อดีตชาติ"ร่วมกัน!

หลวงตาทองคำได้กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า บางครั้งหลวงปู่มั่นได้บอกเล่าถึงกำเนิดในชาติภพก่อน รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องผูกพันกันมาอีกด้วย http://winne.ws/n25012

6.9 พัน ผู้เข้าชม
หลวงปู่มั่นเล่า เหตุการณ์ระลึกชาติว่ามีพระรูปใดบ้าง ที่เคยมี"อดีตชาติ"ร่วมกัน!Dhammada.net

ส่วนที่เป็นความทรงจำของหลวงตาทองคำ จารุวัณโณนั้น ท่านได้กล่าวถึงการที่หลวงปู่มั่นเกิดความรู้เห็นในชาติภพที่เรียกว่า “ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ” ความตอนนี้มีว่า...

             “ท่านว่า จิตถอนออกมาอีก คราวนี้เวทนา วิตก จางลงไปมาก แต่ยังไม่หมด ท่านกำหนดพิจารณาอีก จิตก็รวมลงไป ปรากฏว่าฝนตกน้ำนอง ชุ่มชื่นขึ้นมา มีกำลังปีติซาบซ่านไปทั่ว มีความสุข และจิตเข้าถึงเอกัคคตาญาณ ...

            เกิดความรู้ชนิดหนึ่งขึ้นมา คือ รู้เห็นชาติภพในกาลก่อน ที่เรียกว่า ‘ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ’ เป็นตัววิปัสสนาญาณขึ้นมาว่า ปัจจุบันเราเป็นอย่างนี้ ในอดีตชาติเราเกิดอยู่บ้านเมืองนั้น ประเทศนั้น มีอาหารอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีสุขอย่างนั้น มีทุกข์อย่างนั้น เป็นลำดับไป จนถึงครั้งเป็นเสนาบดี นั่งฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์... เป็นเวลาผ่านมาประมาณ ๔๐๐ - ๕๐๐ ชาติ ...”

       นอกจากเรื่องการระลึกชาติของหลวงปู่มั่นในช่วงก่อนการบรรลุธรรมตามที่หลวงตาทองคำได้เล่าไว้จะไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนเล่าของหลวงตามหาบัวแล้ว (หลวงตามหาบัวพูดถึงการรู้อดีตชาติของหลวงปู่มั่นว่าท่านเล่าไว้ในที่อื่น แต่มิได้กล่าวไว้ในช่วงของการบรรลุธรรม) ก็ยังปรากฏว่า หลวงตาทองคำได้กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า บางครั้งหลวงปู่มั่นได้บอกเล่าถึงกำเนิดในชาติภพก่อน รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องผูกพันกันมาอีกด้วย

หลวงปู่มั่นเล่า เหตุการณ์ระลึกชาติว่ามีพระรูปใดบ้าง ที่เคยมี"อดีตชาติ"ร่วมกัน!Google.sites

           อาทิ  ชาติหนึ่งหลวงปู่มั่นเกิดในตระกูลขายผ้าขาว ณ มณฑลยูนนาน  มีน้องสาวคนหนึ่งซึ่งเคยช่วยเหลือกันมา  ซึ่งในชาตินี้ น้องสาวคนนั้นได้มาเกิดเป็นนางนุ่ม ชุวานนท์ อุบาสิกาชาวสกลนครผู้สร้างวัดป่าสุทธาวาสให้

         อีกชาติหนึ่ง ท่านเกิดในตระกูลช่างทำเสื่อลำแพน ณ โยนกประเทศ ซึ่งอยู่บริเวณเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า  โดยมีพระอาจารย์เสาร์เป็นนายช่างใหญ่ หลวงปู่มั่นเป็นผู้จัดการ ส่วนพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นคนเดินตลาด

  อีกชาติหนึ่ง หลวงปู่มั่นเกิดที่ลังกาทวีป (ประเทศศรีลังกา)  ท่านบวชเป็นพระและได้เข้าร่วมการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๔ พร้อมกับพระภิกษุจำนวนนับหมื่น และยังได้พักอยู่ในเสนาสนะเดียวกับพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นมิตรสหายกันมาจวบจนชาติปัจจุบัน คือ ท่านวิริยังค์ สิรินธโร

             หรืออีกชาติหนึ่ง ท่านเกิดเป็นเสนาบดีที่แคว้นกุรุรัฐ ชมพูทวีป โดยเป็นน้องชายของพระปทุมราชา ผู้ปกครองแคว้น ซึ่งในชาตินี้ก็คือเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ในชาติเดียวกันนี้ ท่านยังมีหลานชายหัวดื้อคนหนึ่งซึ่งพี่ชายมอบให้ท่านดูแล ซึ่งในชาตินี้ก็คือ “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” นั่นเอง ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านยังได้ฟังธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งตั้งจิตปรารถนาขอเป็นพระพุทธเจ้าอีกด้วย”

ความสว่างไสวในจิตของท่านยังคงเจิดจ้าอยู่ แต่ทำไมยังมีการห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ ไม่สามารถพิจารณาธรรมให้ยิ่งขึ้นไปได้ เมื่อตรวจสอบดูก็พบความจริงที่ท่านไม่เคยทราบมาก่อน นั่นคือ “การปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณ” ของท่าน โอ ! แล้วจะต้องเวียนตายเวียนเกิดไปอีกกี่หมื่นกี่แสนชาติ จึงจะถึง คิว ได้เป็นพระพุทธเจ้าสมความปรารถนา

หลวงปู่มั่น ได้ย้อนพิจารณาถึงภพชาติในอดีตปรากฏว่า ท่านเคยมีตำแหน่งเป็นเสนาบดีเมืองกุรุรัฐ (กรุงเดลฮี ในปัจจุบัน) พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดชาวกุรุรัฐ พระองค์ทรงแสดงมหาสติปัฏฐานสูตร หลวงปู่ในชาตินั้นก็ได้เจริญสติปัฏฐาน แล้วยกจิตขึ้นอธิษฐานว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นพระองค์เถิด”

ได้ความว่า หลวงปู่มั่นได้ปรารภโพธิญาณมาตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งเป็นเหตุให้ท่านต้องชะงักในการพิจารณาอริยสัจเพื่อทำจิตให้หลุดพ้นได้ ต้องสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ไปอีกชั่วกัปชั่วกัลป์ ถ้าไม่ปล่อยวางความปรารถนานั้น

หลวงปู่มั่น ยังเห็นต่อไปอีกว่า หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เคยเป็นหลานชายของท่านในชาติที่เป็นเสนาบดีเมืองกุรุรัฐ นั้น ภายหลังเมื่อหลวงปู่เทสก์ตามท่านไปอยู่ที่เชียงใหม่ หลวงปู่เคยบอกหลวงปู่เทสก์ว่า “เธอเคยเกิดเป็นหลานเราที่กรุงกุรุรัฐ ฉะนั้น เธอจึงดื้อดึงไม่ค่อยจะฟังเรา และสนิทสนมกับเรายิ่งกว่าใคร”

ต่อจากนั้น หลวงปู่มั่น ได้ระลึกถึง หลวงปู่ใหญ่เสาร์ พระอาจารย์ของท่าน ก็ปรากฏว่า หลวงปู่ใหญ่ก็ได้เคยปรารถนาเป็นพระปัจเจกโพธิญาณ (พระปัจเจกพุทธเจ้า) จึงไม่สามารถที่จะกระตือรือร้น ที่จะทำจิตให้ถึงที่วิมุตติได้

หลวงปู่มั่นตั้งใจไว้ว่าจะต้องหาโอกาสไปกราบอาราธนาให้หลวงปู่ใหญ่เสาร์ได้ละวางความปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในชาตินี้ให้ได้ นี่คือความกตัญญูส่วนหนึ่งของท่าน

หลังจากที่ได้ใคร่ครวญสิ่งต่างๆ แล้ว หลวงปู่มั่น รู้สึกสลดใจที่เคยเกิดเป็นสุนัขนับอัตภาพไม่ถ้วน และยังจะต้องเวียนวายตายเกิดเพื่อสร้างบารมีต่อไปอีกนานแสนนาน ท่านจึงได้อธิษฐานจิตหยุดการปรารถนาพระโพธิญาณ ตั้งใจแน่วแน่ที่จะขอบรรลุธรรมในชาติปัจจุบัน


ขอบคุณข้อมูลจาก

 เฟซบุ๊ก วิทยา ทิพสงคราม

แชร์