ปลดปล่อยพิธีกรรม “รักต้องลอย” , “รักต้องฝัง” จะมีชีวิตที่ดีขึ้นทันตาเห็น

พิธีปลดปล่อยของขลัง, กุมารเงิน-กุมารทอง, แม่นางกวัก, รักยม, ปู่ฤาษี, หมอชีวก ฯลฯ ทำแล้วชีวิตจะเจริญทันใด http://winne.ws/n27715

1.3 พัน ผู้เข้าชม

การนับถือของขลังต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริง จะมีเชื้อวิบัติติดตัวไปในอนาคตและในภพชาติเบื้องหน้า ก็จะไปยึดถือสิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย ซ้ำอีก

ต่อไปนี้เป็นพิธีกรรม และขั้นตอนในการปลดปล่อยของขลังต่างๆ

       1. ขั้นตอนการอัญเชิญรูปปั้นของขลังมายังโต๊ะพิธีกรรม

       จัดเตรียมโต๊ะที่ตกแต่งปูผ้าให้สวยงามจากนั้นอัญเชิญรูปปั้นของขลังต่างๆ มาตั้งไว้ยังโต๊ะพิธีกรรมที่จัดเตรียมไว้

ให้กล่าวคำอัญเชิญด้วยความนอบน้อมว่า “ขอขอบพระคุณ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดีในช่วงที่พระรัตนตรัยยังไม่บังเกิดขึ้นในใจ แต่ตอนนี้ พระรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในใจแล้วจึงขอเชิญท่านทั้งหลาย กลับคืนสู่ครูบาอาจารย์ และจะขอทำบุญอุทิศกุศลแด่ท่านทั้งหลายเพื่อท่านทั้งหลาย จะได้มีบุญกุศลเพิ่มพูนขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้ ไปสู่ภพภูมิที่ประเสริฐ และเจริญกว่านี้”

       2. ขั้นตอนพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศให้แด่ของขลังต่างๆ

       ให้กล่าวคำขอถึงพระรัตนตรัยว่า “ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัย,ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด,สิ่งอื่นใด, จะเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก, ยิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” (3 ครั้ง)

       จากนั้นให้อาราธนาศีลและรับศีล,กล่าวคำถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่ออุทิศบุญกุศล แด่ครูบาอาจารย์และเหล่าของขลังต่างๆ

      ทำพิธีถวายสังฆทาน,รับพรพระและอุทิศบุญกุศล

      3. ขั้นตอนกล่าวคำปลดปล่อยของขลัง

      เมื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลเสร็จเรียบร้อยแล้ว,ก่อนที่จะกล่าวคำปลดปล่อยของขลัง  ให้กลั่นจิตกลั่นใจ  ให้สะอาดบริสุทธิ์ ผ่องใส ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาสัก 15 นาที, จากนั้น ให้กล่าวคำปลดปล่อยของขลัง ดังต่อไปนี้

(นำ)หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะเส

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ       

                                                                               (3 จบ)

พุทธะบูชา, มหาเตชะวันโต, ข้าพเจ้า, บูชาพระพุทธเจ้า, ขอให้มีเดช, มีอำนาจ,มีวาสนา

ธัมมะบูชา, มหาปัญโญ, ข้าพเจ้า, บูชาพระธรรม, ขอให้มีปัญญา

สังฆะบูชา, มหาโภคา, วะโห, ข้าพเจ้า, บูชาพระสงฆ์, ขอให้มีโภคทรัพย์สมบัติ

อิมินา สักกาเรนะ, พุทธัง, ธัมมัง, สังฆัง, ปูเชมิ, ข้าพเจ้า, ขอนอบน้อมถึง,คุณพระพุทธเจ้า, คุณพระธรรมะเจ้า, คุณพระสงฆเจ้า

วันนี้วันดี, เป็นวันสิริมงคล, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอถึงพระรัตนตรัย, มีพุทธรัตนะ,ธรรมรัตนะ, และสังฆรัตนะ, ว่าเป็นที่พึ่ง, ที่ระลึกอันสูงสุด

       ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอทำพิธีอัญเชิญ, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย,มีปู่ฤาษี-หมอชีวก, แม่นางกวัก-รักยม, พ่อกุมารเงิน-กุมารทอง, ขันธ์ 5 และขันธ์ 8, ที่เคยรับมา, ขอขอบพระคุณ, ที่ท่านทั้งหลาย,ช่วยดูแลเป็นอย่างดี

บัดนี้, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ได้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง, ที่ระลึกอันสูงสุด,จึงขอคืนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้, แก่ครูบาอาจารย์

และขออุทิศบุญกุศล, ที่ได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนา, ให้ถึงแก่ท่านทั้งหลาย,ขอท่านทั้งหลาย, จงมารับกุศลผลบุญ, แล้วจงไปบังเกิด, ในภพภูมิอันประเสริฐ, เลิศล้นด้วยสุขอันวิจิตร,สถิต ณ ทิพยวิมานสถาน, และในกาลภายภาคเบื้องหน้า, ให้ได้พบหนทางอันวิมุตติ, หลุดพ้นจากสรรพทุกข์ภัย,ตัดอาลัยสู่มรรคผลนิพพานเทอญฯ.

        4. ขั้นตอนการนำของขลังไปลอยน้ำหรือกลบฝังดิน

 จากนั้นให้นำของขลัง ไปลอยยังแม่น้ำหรือทะเล หรือให้ขุดดินฝังในพื้นที่อันเหมาะสม โดยให้เตรียม ข้าวตอกดอกไม้(หรือกลีบดอกไม้)เพื่อนำไปโปรยในพิธีด้วย

ก่อนนำของขลังลงลอยน้ำ หรือกลบฝังดิน ให้กล่าวด้วยจิตเมตตาว่า “ข้าพเจ้า,ไม่ได้รังเกียจท่านทั้งหลายเลย, แต่บัดนี้, เราได้หมดกรรมต่อกันและกันแล้ว, ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลาย, ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน, ในทุกๆ กรรมที่ได้เคยกระทำมา, ในทุกภพทุกชาติที่ผ่านมา,ขอท่านทั้งหลาย, จงไปสู่ภพภูมิอันประเสริฐ เทอญฯ”.

จากนั้นนำของขลังลงลอยน้ำ แล้วโปรยข้าวตอกดอกไม้, หรือนำลงหลุมที่เตรียมไว้แล้วโปรยข้าวตอกดอกไม้ ก่อนกลบดินฝัง

      นั่งให้สงบใจ หยุดนิ่ง อย่างเบาสบาย แล้วแผ่เมตตาสัก 5 นาที เป็นอันจบพิธีกรรม.

แชร์