เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

รถคันนี้ รับผู้โดยสารได้ 4-5 คน พอไปส่งผู้ป่วยเสร็จ ขับกลับมาถึงมูลนิธิ ก็ต้องทำความสะอาดรถ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เก็บขยะ ล้างรถ เตรียมพร้อมออกไปรับผู้ป่วยต่อในตอนกลางคืน http://winne.ws/n27976

1.7 พัน ผู้เข้าชม
เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

       ถึงคราวที่คนไทยต้องหันหน้ามาช่วยกันเอง ! อีจัน มูลนิธิเพชรเกษม และ เรื่องเล่าเช้านี้ จับมือกัน เพื่อโครงการ ส่งผู้ป่วยโควิด กลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด Back Home

       นักข่าว ตัดต่อ ช่างภาพ มาเป็นจิตอาสา กู้ภัยฯ มาเป็นคนขับรถรับ-ส่ง ผู้ป่วยโควิด

        รวมถึง พี่นัส มนัส เเขวงภูเขียว อายุ 38 ปี พนักงานขับรถ ที่คุณวิวรรธน์ จาก บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ส่งรถตู้ โฟล์ค นบ3333 มาพร้อมกับพี่นัส เพื่อมาช่วยในโครงการนี้

       พี่นัส เล่า ตนมาทำงานที่มูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพฯ ตั้งแต่ เริ่มโครงการ Back Home ได้เพียง 3 วัน วันที่ 8 ก.ค.64 แล้ว ไปกลับมาทั่วภาคเหนือ - ภาคอีสาน แทบทุกจังหวัด จ.นครพนม ไกลสุด ตนขับเอง ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง แบบฝนตกตลอดทาง ตั้งแต่กทม.- นครพนมเลย

      "ตอนแรกที่นายสั่งมา ก็ไม่ได้ตอบรับเลยทันที มันไม่มีใครอยากมาหรอก ผมเลยต้องมาเอง ก็ถือว่ามาทำงาน ถามว่ากลัวไหม ตอนแรกก็กลัว แต่พอได้มาเจอพี่ๆ กู้ภัย เขาแนะนำว่าต้องทำยังไง ตอนนี้ก็เฉยๆ แล้ว ไม่ได้กลัวอะไรแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มชินบ้างแล้ว" พี่นัส กล่าว

       พี่นัส เล่าต่อ วันแรกที่มาถึง มูลนิธิ ตอนตี 4 ตนงงไปหมด พี่ๆ ก็สอนใส่ชุด PPE รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันตัวเองต่างๆ แบบเบื้องต้น ไปรับเคสยังไง โทรหาเคสยังไง ต้องโทรเช็ก รพ.ปลายทาง บริหารเวลา ไปรับผู้ป่วย ส่งผู้ป่วยเพื่อให้ถึงรพ.ตามเวลาที่นัดกันไว้

        ก่อนออกเดินทางสภาพร่างกายคนขับต้องพร้อม กินข้าวให้อิ่ม จนกว่ารับ-ส่งผู้ป่วยเสร็จถึงจะได้กินข้าวอีกครั้ง ระหว่างทางกินได้แค่น้ำ บางรพ.ไปถึงเขาก็มีข้าวให้เรากินด้วย บางทีเราก็ต้องพักรถบ้าง ไม่ใช่ไม่พักเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นตะคริว ต้องทายา

เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

      ส่วนเรื่องการเข้าห้องน้ำ สำหรับพี่กู้ภัยยังพอจะแวะข้างทางได้ แต่กับผู้ป่วย ไม่สามารถลงจากรถได้จนกว่าจะถึงปลายทาง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ผู้ป่วยจึงต้องใส่แพมเพิร์ส PPE ต้องใส่ตลอด ร้อนมาก ถอดออกมาเหงื่อชุ่มเลย

        ด้านครอบครัวตอนแรกก็ไม่ได้อยากให้มา โทรมาทุกวัน ให้บอกนาย กลับเถอะ ตนก็บอกว่า มาทำงาน ป้องกันตัวเองอย่างดี เวลาเลิกงาน ตัวเองก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ส่วนมากก็จะนอนที่มูลนิธิ ปกติก็ไม่ค่อยได้หยุดอยู่แล้ว ถือว่ามาช่วยพี่ๆ เขา ตนมาทำงานที่นี่ ไม่ได้ค่าแรง เพราะ ได้รับเงินเดือนจากบริษัทอยู่แล้ว ถามว่าพอใช้ ไหมก็พออยู่ เพราะช่วงนี้ก็ไม่ได้ใช้เงินอะไรเยอะ กินนอนอยู่มูลนิธิตลอด

เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

     ความแตกต่าง ระหว่างตอนที่เป็นพนักงานขับรถ กับ ตอนที่ต้องมาขับรถรับส่งผู้ป่วย พี่นัส บอกว่า ตอนส่งผู้ป่วย ก็ต้องเร่งรีบ ใช้เวลาให้สั้นที่สุด ออกเดินทางกลางคืน เพื่อไปให้ทันเช้า ที่รพ.ปลายทาง ตนขับรถ ประจำ โฟล์ค นบ3333 ที่มาจากบริษัทเลย ซึ่งความเหมาะสมของรถที่จะใช้ไปรับผู้ป่วย จะต้องใช้พลาสติก ซีนกั้น ระหว่าง ห้องคนขับกับภายในห้องโดยสาร เพื่อป้องกัน ไม่ให้ใช้อากาศร่วมกัน นอกจากนี้ต้องใช้พลาสติก หุ้มเบาะรถด้วย ที่สำคัญต้องซีนปิดช่องแอร์ และเปิดหน้าต่างให้ผู้โดยสาร แต่ก็กลัวผู้โดยสารจะร้อน พี่นัส เลยไปซื้อพัดลมมาติดให้ด้วย

เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

      รถคันนี้ รับผู้โดยสารได้ 4-5 คน พอไปส่งผู้ป่วยเสร็จ ขับกลับมาถึงมูลนิธิ ก็ต้องทำความสะอาดรถ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เก็บขยะ ล้างรถ เตรียมพร้อมออกไปรับผู้ป่วยต่อในตอนกลางคืน ส่วนคนขับ นอกจากพี่นัส ที่ประจำรถคันนี้ น้าหรั่งก็จะหาคนที่ขับรถได้ไปด้วยอีกคน สลับกันขับ แต่ถ้าไปจังหวัดไกลๆ ก็จะไป 3 คน วันหนึ่งได้นอน 2-3 ชม. บางครั้งนอนในรถมันก็ไม่ค่อยหลับ

เปิดใจ พี่นัส จากคนขับรถนาย สู่ อาสาขับรถส่งผู้ป่วยโควิด BackHome

         หลังจากมาช่วยรับส่งผู้ป่วย ก็รู้สึกดี มีบางเคสที่ไปรับ ตนน้ำตาร่วงเลย เป็นเคสที่อยู่แถวประตูน้ำ พอไปถึง พี่เขาต้องการเครื่องออกซิเจน ตนก็ไม่รู้ว่าเครื่องออกซิเจนมันต้องใช้ยังไง พี่มูลนิธิที่ไปด้วยเขาแนะนำ ว่ารับไปด้วยไม่ได้นะ เดี๋ยวเขาน็อกกลางทาง เลยโทรเรียกรถพยาบาลละแวกนั้นให้มาดูหน่อย เขาบอกว่าถ้าไม่ได้ไปคืนนี้อาจจะไม่รอด ตนเลยบอกว่า ถ้าไปกับตนคืนนี้ก็อาจจะไม่รอดเหมือนกัน ตอนนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หรือ ผู้ป่วยน้อยลง ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปตอนไหน ตอนนี้ยังไหวอยู่ ได้มาเห็นรอยยิ้มของผู้ป่วย อะไรหลายๆ อย่างทำให้หายเหนื่อย" พี่นัส กล่าวภาพจากอีจัน

ที่มา https://www.ejan.co/ejan-social/

แชร์