ทายาทเจ้าหญิงรุ่นที่ 7 แห่งลังกาวี!! ผู้กลับมาถอนคำสาปของพระนางมัสสุหรี (พระนางเลือดขาว)
เรื่องจริงไม่อิงนิยาย เรื่องมหัศจรรย์ เรื่องปาฏิหาริย์ ความดีเป็นสิ่งไม่ตาย... http://winne.ws/n18403
เรื่องย่อพระนางมัสสุหรี หรือ พระนางเลือดขาว
มัสสุหรี เป็นคนไทยลูกหลานชาวภูเก็ต พ่อแม่ทำการค้าทางเรือระหว่างเกาะภูเก็ตกับเกาะปีนังได้เกิดเรือล่มกลางทะเล ทั้งสามพ่อแม่ลูกรอดตายปาฏิหาริย์จากการอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยไปติดที่เกาะลังกาวี ต่อมาได้เกิดวิกฤตภัยแล้งอย่างหนักบนเกาะผู้คนเดือดร้อน บ้างก็ต้องอพยพ มัสสุหรีได้ขอพรจากพระเจ้าให้ประทานแหล่งน้ำ ระหว่างอธิษฐานก็ไปสะกิดก้อนกรวดหินทำให้พบตาน้ำไหลออกมาได้ประกาศแจ้งให้ชาวบ้านทราบ ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเกาะ ชาวบ้านได้มาดื่มกินและนำกลับบ้านอีกทั้งยังช่วยให้หายจากโรคได้ด้วย
มัสสุหรี เป็นเด็กขยัน เด็กดีของพ่อแม่ ช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนซื่อสัตย์ และเชื่อฟังพ่อแม่ ยามใดมีคนตกยากหรือขอทานผ่านมา ก็จะให้ทานเป็นน้ำข้าวปลาอาหารสม่ำเสมอจนกระทั่งโตเป็นสาว เนื่องจากความงามและความมีน้ำใจ ได้ดังกระฉ่อนไปถึงหูของเจ้าชายวันดารุดลูกชายของสุลต่านผู้ปกครองเกาะลังกาวี โดยได้ปลอมตัวเป็นคนขอทาน มาขอข้าวขอน้ำที่หน้าบ้านของมัสสุหรี นางมัสสุหรีก็นำข้าวปลามาให้จนเป็นที่พอใจของเจ้าชายวันดารุดจึงได้ให้พระมารดาไปสู่ขอ แต่เมื่อพระมารดาทราบว่าเป็นหญิงสาวชาวบ้านคนไทยอพยพมาจากภูเก็ต ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ก็ปฏิเสธทันที
เจ้าชายวันดารุดจึงยื่นคำขาดว่าจะฆ่าตัวตายเมื่อเกรงว่าเจ้าชายจะฆ่าตัวตายจึงยอมตามคำขอ แต่ก็เกลียดมัสสุหรีมากหวังจะกำจัดมัสสุหรี โดยกลั่นแกล้งตลอด
พระนางมัสสุหรี คลอดบุตรชายได้เพียง 3 วันเจ้าชายวันดารุดต้องไปออกศึก จึงได้มอบหมายองครักษ์คู่ใจให้มารับใช้พระนางมัสสุหรี ด้วยความเกลียดชังและความริษยาของพระมารดา เมื่อสบโอกาสก็ให้ทำงานหนัก และหาเรื่องใส่ร้ายว่าพระนางมัสสุหรีเป็นชู้กับองครักษ์ มีโทษประหารสถานเดียวเพชฌฆาตพยายามฆ่าพระนางมัสสุหรีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พระนางจึงบอกว่ามีเพียงกริชของพระนางเท่านั้นที่จะฆ่าพระนางได้ ก่อนที่เพชฌฆาตจะลงมือประหาร พระนางมัสสุหรีได้กล่าวว่า “ฟ้าดินเป็นพยาน ข้านี้ถูกใส่ร้าย ข้าไม่เคยคบชู้สู่ชายหากข้าไม่ผิดขอให้โลหิตของข้าเป็นสีขาว และอย่าให้โลหิตของข้าหลั่งลงพื้นดิน ฟ้าดินเป็นพยาน” สิ้นคำกล่าวของพระนาง เพชฌฆาตก็ปักกริชลงบนคอเสียงร้องของพระนางดังไปทั่วบริเวณเลือดสีขาวของพระนางพุ่งขึ้นเหมือนร่มโดยไม่ตกลงพื้นแม้แต่หยดเดียว
ก่อนสิ้นใจหันไปดูบุตรชายซึ่งร้องเสียงดังเหมือนรับรู้ความเจ็บปวดของแม่ได้อ้อนวอนพระมารดาขอกอดลูก และขอให้นมบุตรเป็นครั้งสุดท้าย แต่พระมารดาไม่ยอม พระนางมัสสุหรีจึงสาปแช่งว่า “หากนางเป็นผู้บริสุทธิ์มันผู้ใดที่อยู่บนเกาะลังกาวี จงประสบทุกข์เข็ญนานตราบชั่ว 7 อายุคนและบอกพ่อกับแม่ของพระนางให้เอากล้วยน้ำว้าป้อนลูกแทนนม แล้วจึงสิ้นใจ
เจ้าชายระหว่างกลับได้นิมิตเห็นพระนางมัสสุหรีจึงประกาศว่าใครทำร้ายพระนางมัสสุหรีจะฆ่าให้ตายตามไปแต่เมื่อกลับมาถึงเกาะลังกาวี ก็กลายเป็นเหมือนเกาะร้างเมื่อทราบว่าเป็นการกระทำของพระมารดา จึงได้สละราชสมบัติ หอบลูกไปอยู่ภูเก็ตบ้านเดิมของ พระนางมัสสุหรี จนกระทั่งทายาทรุ่นที่ 7 ได้กลับมาถอนคำสาป ซึ่งก็คือพระนางมัสสุหรีกลับชาติมาเกิดนั่นเอง
กล่าวถึงพระมารดาเมื่อสิ้นพระชนม์ พระศพก็ไม่สามารถฝังที่ใดได้เลย ฝังที่ใดทรายก็จะดันขึ้นมาเสมอจนกระทั่งต้องไปทำพิธีบนบานที่สุสานของพระนางมัสสุหรีจึงสามารถนำพระศพไปฝังไว้บริเวณหาดทราย และสีของหาดทรายกลายเป็นสีดำในทันที
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : krishnadragon, 9palaceและบันทึกตำนาน
: https://www.youtube.com/watch?v=tKBn3ValdqY&t=75s
: https://www.youtube.com/watch?v=VrHnDQvnxfI