ผู้ว่าการ  ททท.เผยวันที่ 20 ต.ค.นี้ นักท่องเที่ยวจากเซี่ยงไฮ้ 41 คนบินถึงไทยชุดแรก และอีก 100 คน มา 26 ต.ค. และทยอยเข้ามาต่อเนื่อง 14 วัน ระบุอยากไปเที่ยวทะเลต่อ หลังกักตัว 14 วัน ส่วนการชุมนุมทางการเมืองไม่กระทบท่องเที่ยว เพราะไทยยังเปิดประเทศไม่เต็มที่ ส่วนคนไทยวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้า คาดลอยกระทงเงินสะพัด 1,400 ล้านบาท

          นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยกลุ่มแรกจากเมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 41 ราย บินมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การลงสนามบิน การตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการกักตัว 14 วันในโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานกักตัวทางเลือก หลังจากนั้นกลุ่มที่ 2 จะเข้ามาในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จากเมืองกว่างโจวประมาณ 100 ราย 

        ส่วนเที่ยวบินอื่น ๆ จะเข้ามาเพิ่มเติมยังอยู่ในขั้นตอนการสื่อสารว่าจะเข้ามาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือในพื้นที่ที่มีสถานกักตัวทางเลือก อาทิ บุรีรัมย์ ชลบุรี ปราจีนบุรี ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยยืนยันว่าต้องกักตัวให้ครบ 14 วันแล้วจึงจะท่องเที่ยวในประเทศต่อได้ โดยมีแอปพลิเคชันติดตามตัวตน โดยเบื้องต้นต่างชาติที่จะเข้ามาระบุว่า เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วต้องการไปเที่ยวพื้นที่ทะเล

         สำหรับสถานการณ์ทางการเมือง ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนจะกระทบกับความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ มองว่า ขณะนี้ต่างชาติน่าจะจดจ่อในการเดินทางเข้ามาในประเทศให้ได้ก่อน ส่วนการเปิดรับต่างชาติระยะถัดไป หากสถานการณ์ยังไม่มีความรุนแรง และเป็นการชุมนุมแบบแฟลชม็อบ แม้จะกระจายไปหลายจุดทั่วประเทศ แต่ก็ยังมองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว

           นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ในวันที่ 20 ต.ค.นี้จะมีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อยกเครื่องมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ โดยปรับเงื่อนไขเพิ่มเติม หาสาเหตุของจำนวนการใช้ห้องพัก ที่แม้ตัวเลขจะยังเดิน แต่เป็นจำนวนที่ห่างจากเป้าหมายค่อนข้างมาก ส่วนการชุมนุมทางการเมืองมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทย เพราะคนส่วนใหญ่น่าจะวางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวล่วงหน้าไว้แล้วโดยการที่มีวันหยุดยาวตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ สำนักงาน ททท.ทั้ง 29 แห่งทั่วประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในกรณีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อการคุ้มครอง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบ

         นายยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงประเพณีลอยกระทง ปีนี้ ททท.ได้จัดงาน และสนับสนุนการจัดงานประเพณี ลอยกระทง ภายใต้แนวคิดหลัก “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2563” ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วันที่ 29-31 ต.ค.2563 รวมถึงสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีลอยกระทง 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป

       “ในปีนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะมีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 29-31 ตุลาคมนี้ โดยคาดหวังว่าจะมีการเดินทางในประเทศไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน-ครั้ง รายได้ ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าการลอยกระทงในปีนี้ จะเป็นการเที่ยวแบบการ์ดไม่ตก และท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล รวมถึงต้องลอยกระทงแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย โดยหากเปรียบเทียบกำลังซื้อในประเทศกับปี 2562 พบว่ากำลังซื้อปรับน้อยลง ทำให้ยังชะลอการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง”

ที่มา https://www.thairath.co.th/