รายการคุยข่าว เล่าธรรม

ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ศิลป์ ราศรี

สัมภาษณ์ ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย โดยทนายอาคม รัตนพจนารถ

และฝ่ายพระวินัย ดร.จำนงค์ คันธิก

(หยิบยกส่วนสำคัญมาไขความกระจ่างต่อสังคม)

ชัดๆ คำต่อคำ เผยความจริง :

ถาม : คดี สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เกี่ยวอย่างไรกับพระธัมมชโย ?

ตอบ : เป็นผู้รับบริจาคจากคุณศุภชัย ต้องถามว่าผู้รับทราบไหม หรือมีการตกลงกับผู้ให้ไหม ถ้าไม่มีการตกลงต้องพิพูจน์ว่า ผู้รับทราบไหมว่าเงินนั้นได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ปัจจัยมาเป็นเช็คใส่ซอง หลวงพ่อได้ถามในขณะนั้นไหม ว่าเงินจำนวนนั้นเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ถาม ถามไหมว่าจะทำเพื่อวัด หรือเพื่อใคร ก็ไม่ได้ถาม แต่รู้แน่ๆ ว่าเอามาทำบุญให้วัด ในเมื่อให้วัดไม่ได้ให้กับตัวหลวงพ่อ ถ้าผิดก็ไปว่ากับวัด จะมาว่ากับหลวงพ่อไม่ได้ หลวงพ่อเป็นเพียงตัวแทน

ถาม : ทางพระวินัย เมื่อมีคนเอาเงินมาถวาย มีบัญญัติไว้ไหมว่าต้องถามก่อน หรือไม่ต้องถามก่อน ?

ตอบ :  ไม่มีในบัญญัติว่าให้ถาม ถ้าถวายเยอะ อาจมีเอะใจ หรือถามได้ในความคิดผม

แต่เมื่อไม่ได้ถามก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง การไม่ทราบข้อเท็จจริง จะถือว่าผู้รับมีเจตนาไม่ได้ คนไม่รู้จะเอาเขาผิดหรือ 

ถาม : แล้วเกี่ยวข้องกับคดีได้อย่างไร Dsi ออกมากล่าวหาท่านได้อย่างไร ?

ตอบ  กฎหมายอาญามีอยู่ 2 ประเภท

1. กระทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน อันนี้ไม่สามารถที่จะยอมความได้

2. ความผิดต่อส่วนตัว อันนี้สามารถยอมความได้ และเมื่อยอมความแล้วคดีอาญาที่ฟ้องย่อมระงับ

ตามมาตรา 39(2) ว่า การนำคดีอาญามาฟ้อง ย่อมระงับกรณีเป็นความผิดส่วนตัวเมื่อ

1.  ถอนฟ้อง

2.  ถอนคำร้องทุกข์

กรณีนี้เคยฟ้องวัดธรรมกายแล้ว และถอนฟ้องแล้ว การถอนฟ้อง เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ว่าสิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับ 

ระงับ หมายถึงว่ามันเป็นความผิดส่วนตัวนะ คนอื่นห้ามยุ่งเลย ไม่ว่าตำรวจ หรืออัยการห้ามยุ่ง

ถาม :  กรณีธรรมกาย มีการถอนฟ้องแล้ว แล้วทำไมคดียังอยู่ ?

ตอบ :  พฤติการณ์อย่างนี้ ต้องถามเหตุการณ์บ้านเมืองดีกว่าว่าเป็นอย่างไร ? 

แต่ถ้าถามตัวบทกฎหมายไม่มีอำนาจในการกระทำการ 

ไม่ว่าคดีนั้นจะเป็นการฟอกเงิน หรือรับของโจร เพราะว่าสิ่งที่อ้างว่ารับของโจร ต้องได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยักยอกก็ถือว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

"แต่มันถูกตัด โดยการถอนฟ้อง และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ตัดขาดเลย ห้ามไม่ให้รื้อฟื้อ หรือว่านำคดีในเรื่องเดิมมากล่าวหา ฟ้องร้องกันอีก"

ถาม : ท่านอ้างว่า กฎหมายอาญาแผ่นดินมันถอนฟ้องกันไม่ได้ ?

ตอบ : คดีนี้ไม่ใช่ คดีอาญาแผ่นดิน เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว 

กฎหมายอาญา มี 2 ประเภท 

1. กฎหมายอาญาแผ่นดิน 

2. กฎหมายที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว ได้แก่ ยักยอก ฉ้อโกง

ถาม :  การที่ DSI ยังยกเรื่องนี้มีการออกทั้งหมายเรียก และหมายจับ ท่านกระทำถูกไหม ?

ตอบ : ตรงๆ เลยนะ กระทำโดยไม่มีอำนาจมากกว่า การที่ท่านไปร้องต่อศาล ท่านไม่ได้หยิบยกว่ามีการถอนฟ้องแล้ว และอ้างให้ศาลเห็นด้วย ศาลก็เชื่อ 

ข้อมูลในการไปขอออกหมายจับ ไม่กระจ่าง อาจจะเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อว่ามีการกระทำผิดอย่างนี้จริง ศาลจึงให้ออกหมายจับ

"จริงๆ ถ้าเกิดเอาการถอนฟ้องในคดีเดิมไปยันต่อศาล ทุกอย่างจบหมด

ขอยืนยัน  คดีนี้รับของโจร และฟอกเงิน ดำเนินคดีนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด "

ถาม : อย่างนี้ เท่ากับว่า กล่าวหาว่า DSI กระทำโดยผิดกฎหมายสิ ?

ตอบ : ไม่ได้กล่าวหาใคร ผมยืนยันตามหลักตัวบทกฎหมายว่า กระทำการไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) เพราะเป็นเรื่องความผิดต่อส่วนตัว และได้ถอนฟ้องไปแล้ว

"คดีฟอกเงินก็ดี รับของโจรก็ดี อาศัยมูลฐานเดิมใช่ไหม คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เขาถอนฟ้องไปแล้ว แล้วเอามูลฐานมาจากไหนละ มูลฐานความผิดไม่มี ในเมื่อไม่มี แล้วเอาอะไรมา"

ถาม : แต่ว่าตอนนี้มีการออกหมายจับแล้ว ขั้นตอนการออกหมายจับมีขั้นตอนอย่างไร ?

ตอบ :  อ้างว่ามีการกระทำผิดอาญาแผ่นดินจริง พฤติการอย่างนี้น่าออกหมายจับ เพราะออกหมายเรียกมาแล้ว 2 ครั้ง ศาลก็หมายจับให้ 

"แต่ผู้ร้องอาจจะไม่ได้เอาข้อที่ว่าถอนฟ้องมาให้ศาลเห็น ถ้าศาลเห็นศาลจะไม่ออกให้เด็ดขาด และตัวเองจะไม่มีอำนาจในการดำเนินการสอบสวน แม้แต่นิดเดียวเลย"

ถาม : ตอนนี้มีการออกหมายจับ และมีการเรียกร้องให้ท่านออกมามอบตัว แต่ทางวัดพระธรรมกายบอกว่าท่านป่วย ท่านต้องเข้าสู่กระบวนการก่อนไหม ?

ตอบ : ไม่จำเป็น 

"เพียงแต่เอาหลักฐานที่ว่า ศาลมีคำพิพากษาแล้วว่า อนุญาติให้ถอนฟ้องได้ และเอาเลขคดีนั้นมายัน ยื่นให้ DSI คุณเอาอำนาจอะไรมาดำเนินการ"

ถ้าเอาคดีที่ถอนฟ้องแล้วมายันกับศาล หน้าหงาย เลยนะ DSI

ผมไม่เคยเห็น DSI หยิบยกเอาคดีที่ถอนฟ้องแล้วมาพูดถึงเลยแม้แต่น้อย 

 ***สำคัญที่สุดประเด็นนี้ DSI จะไม่มีอำนาจ และหมดความชอบทำในการทำคดีนี้เลยตั้งแต่ต้น****

ถาม : พระธัมมชโย ควรจะมามอบตัวไหม ?

ตอบ : ไม่ควร 

"เพราะท่านไม่ได้ทำอะไรผิดเลย"

ถาม : เขาจะไปจับท่านอยู่แล้ว ต้องมาสู่ขบวนการ สู้กันสิ ?

ตอบ : ไม่ใช่ 

 ต้องถาม DSI ว่าที่คุณไปร้องขอหมายจับ คุณมีหลักฐานอะไรไปร้องต่อศาลบ้าง 

เช่น คดีเก่าที่เขาถอนฟ้องไปแล้ว คุณได้เอาไปฟ้องต่อศาลไหม 

ถ้าไม่มี แสดงว่าคุณหลบเลี่ยงที่จะปกปิดข้อเท็จจริงบางอย่าง เพื่อไม่ให้ศาลรู้ เพื่อให้ศาลหลงเชื่อ จนออกหมายจับ

"ผมพูดตามกฎหมาย พระธัมมชโยไม่ผิดเลย ไม่ได้พูดเข้าข้าง ผมพูดตามกฎหมายทั้งหมด ถ้าผมผิดเอาผมไปดำเนินคดีได้ ผมพร้อมสู้"

"DSI ไม่มีอำนาจ แต่เพราะเหตุใดทำ ผมไม่ทราบ ???"

ทนายอาคม รัตนพจนารถ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากรายการ :

คุยข่าวเล่าธรรม 04 มิถุนายน 2559

https://youtu.be/bYXNi6Eo2-g