เรื่องเล่า พร้อมภาพประกอบ

พระปฏาจาราเถรี อดีตเป็นธิดาของเศรษฐี เมื่ออายุ 16 ปี เธอสวยงามมาก พ่อแม่ให้อยู่ในปราสาทชั้นที่ 7 เพื่อป้องกันหนุ่มมาพบเจอะเจอ

แต่นางกลับมีนิสัยโลเลในเพศตรงข้าม จึงมีความสัมพันธ์กับชายคนใช้ในบ้าน

ต่อมาพ่อแม่ได้ตกลงยกเธอให้กับชายหนุ่มที่สกุลเท่าเทียมกัน

นางจึงบอกกับชายคนใช้ว่า ให้พาเธอหนีไปอยู่กินกันตามลำพังในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเถิด

ต่อมาเมื่อนางตั้งครรภ์ลูกคนแรก นางขอให้สามีพากลับไปคลอดที่บ้านพ่อกับแม่ แต่สามีก็ไม่ยอมพาไป เพราะกลัวความผิด นางจึงหนีไป

ระหว่างทางนางได้คลอดลูกคนแรกออกมา และสามีตามมาพบเข้า ก็พากันกลับบ้านไปอีก

อยู่ต่อมานางก็ตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 อีก และนางก็ขอให้สามีพาไปคลอดที่บ้านพ่อกับแม่อีก แต่สามีก็ไม่ยอมพาไปอีก นางจึงเอาลูกคนโตเดินทางหนีไปด้วยกัน สามีตามมาทัน และนางก็ปวดท้องจะคลอดลูกคนที่ 2 แต่ขณะนั้น ได้เกิดลมและฝนตกหนัก สามีไปตัดกิ่งไม้ แต่ถูกงูกัดตายข้างจอมปลวก 

นางคลอดลูกคนที่ 2 ท่ามกลางสายฝน เธอทั้งหนาวสั่น ด้วยการใช้กายคุ้มครองลูกทั้งสองอย่างทุกข์ทรมานเป็นที่สุด รุ่งเช้าก็พาลูกเดินทางไปถึงแม่น้ำจิรวดี และให้ลูกคนเล็กรออยู่อีกฝั่งหนึ่ง เธอได้อุ้มคนเล็กไปวางไว้อีกฝั่งหนึ่ง แล้วเดินกลับมารับลูกคนโต 

ขณะนั้นมีเหยี่ยวเห็นเด็กทารก ก็นึกว่าก้อนเนื้อ จึงโฉบเอาทารกไปกิน นางร้องลั่นปรบมือขับไล่เหยี่ยว ลูกคนโตคิดว่าแม่เรียกจึงเดินลงน้ำ และถูกน้ำพัดพาหายไปต่อหน้าต่อตา

เธอแทบหมดสติ พาร่างกายที่อ่อนแรงเดินทางเพื่อกลับไปหาพ่อกับแม่ พบชายผู้หนึ่ง เขาบอกว่า เมื่อคืนนี้ ทั้งลมฝนตกอย่างหนัก ทำให้ปราสาทถล่มลงมาทับพ่อกับแม่และลูกชายเขาเสียชีวิตแล้ว 

เมื่อนางได้ฟังดังนั้น ถึงกับหมดสติ และขาดสติ จนเหมือนคนบ้า ไม่สวมเสื้อผ้า เฝ้ารำพันเพ้อถึงพ่อกับแม่ ลูกและสามี ตลอดเวลา ใคร ๆ ก็บอกว่าเธอเป็นคนบ้า ขว้างปาสิ่งของและฝุ่นใส่เธอ..

พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยญาณ จึงดลใจให้นางเดินมาที่พระกุฎีของพระพุทธองค์ อย่างขาดสติ ผู้คนในศาลาต่างขับไล่ แต่พระพุทธองค์กลับเรียกนาง เข้ามา เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ชมต่อพร้อม ๆ กันได้ที่ : https://youtu.be/W8Jt2I2BlkY

หมายเหตุ แม้ชาตินี้จะมีผังได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์แล้ว แต่ก็ยังโดนวิบากกรรมทำให้เป็นบ้า ก่อนที่จะได้พบกับพระพุทธเจ้า และได้บวชในเวลาต่อมา จนปฏิบัติธรรมได้เป็นพระอรหันต์

ดังนั้น ชีวิตนี้ ประมาทไม่ได้เลย เพราะความทุกข์ย่อมอยู่คู่กับสรรพสัตว์ทั้งปวงบนโลกนี้เสมอ