สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่าสืบเนื่องจากเหตุการณ์เที่ยวบินอีเค251 ซึ่งเดินทางมาจากสนามบินธีรุวนันทปุรัม ในรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยใช้เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-300 ตกกระแทกพื้นขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานดูไบ เมื่อช่วงบ่ายของวันพุธตามเวลาท้องถิ่นนั้น ชีค อาเหม็ด บิน ซาอิด อัล มัคทูม ประธานสายการบินเอมิเรตส์ แถลงในวันเดียวกันว่า ผู้โดยสาร 282 คน จาก 20 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดียจำนวน 226 คน และลูกเรือ 18 คน ได้รับการอพยพออกมาอย่างปลอดภัย แต่ในจำนวนทั้งหมดมี 13 คนต้องเข้ารับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีนักผจญเพลิงเสียชีวิต 1 ศพ

          ทั้งนี้ ชีคอาเหม็ดปฏิเสธการวิเคราะห์ของหลายฝ่ายว่าสาเหตุของการลงจอดกระแทกพื้นจนไฟลุกท่วมของเครื่องบิน เกี่ยวข้องกับ "ประเด็นด้านความปลอดภัย" โดยกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ "ระบบปฏิบัติการ" เนื่องจากกัปตันมีประสบการณ์บินกับเครื่องบิน 777-300 มากกว่า 7,000 ชั่วโมง และยังไม่มีการเผยความคืบหน้าใดอีก แต่ย้ำว่ามาตรฐานของสายการบินยังอยู่ในระดับสูง แม้ภาพที่ออกมาปรากฏให้เห็นว่าเครื่องบินอาจมีปัญหาที่เกียร์ลงจอดด้านขวา และตัวเครื่องเอียงไปในทิศทางดังกล่าวหลังลงจอด และมีรายงานด้วยว่าหอบังคับการบินเตือนให้นักบินปล่อยเกียร์ลงจอดด้านขวา เนื่องจากตัวเครื่องกำลังจะสัมผัสกับพื้นรันเวย์แล้ว ขณะที่ท่าอากาศยานดูไบจำเป็นต้องระงับให้บริการนานเกือบ 6 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ 

          เอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงเป็นลำดับต้นของโลก อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ไม่ใช่ครั้งแรกโดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา เที่ยวบินของเอมิเรตส์ซึ่งใช้เครื่องบินรุ่นนี้ อยู่ระหว่างเดินทางจากนครดูไบไปยังเกาะมัลดีฟส์ ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินมุมไบ หลังเกิด "ปัญหาทางเทคนิค" 

ขอขอบคุณคลิปประกอบ : Emirates

ขอขอบคุณคลิปประกอบ : Oneindia Hindi

ขอขอบคุณภาพจาก www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก https://foreign.kachon.com

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://foreign.kachon.com/64388