BBC History Magazine ได้ทำการจัดอันดับโดยการทำโพลเพื่อค้นหาผู้หญิง 100 คน ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนเปลี่ยนโลก และพบว่า Marie Curie หรือ มารี กูว์รี คือ ผู้หญิงที่ได้รับการยกย่องเป็นอันดับที่ 1 ของโลก

เธอเป็นนักฟิสิกส์และนักเคมีที่ค้นพบรังสีเรเดียมที่ใช้ยับยั้งการขยายตัวของมะเร็ง เป็นคนแรกของโลกที่ได้รับรางวัลโนเบล 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้รางวัลร่วมกับสามี แต่หลังจากสามีเสียชีวิตเธอทำการวิจัยต่อไป และได้รางวัลโนเบลเป็นครั้งที่ 2 

มารี กูว์รี เป็นชาวโปแลนด์ ที่เกิดและโตในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งแต่สมัยที่ประเทศโปแลนด์ยังอยู่ในจักรวรรดิรัสเซีย และเป็นยุคสมัยที่ผู้หญิงไม่ค่อยมีโอกาสทางการศึกษา ผู้หญิงส่วนใหญ่จะต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือน

เธอเรียนจบที่มหาวิทยาลัยปารีส และมีโอกาสไปทำงานเป็นผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการทางเคมีของ ปีแยร์ กูว์รี และในที่สุดทั้งสองก็แต่งงานและมีลูกด้วยกัน

สามีของเธอตายเพราะถูกรถม้าชน แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นทำงานต่อไปจนพบแร่ธาตุเรเดียม โดยได้มาจากแร่พิตช์เบลนด์ที่เป็นออกไซต์ชนิดหนึ่งซึ่งสามารถแผ่กระจายรังสีได้ 

มารี กูว์รี ได้ปริญญาเอกจากการค้นพบแร่ธาตุเรเดียม และได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งจากงานที่เธอทำติดต่อกันมาหลายปี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เธอได้อาสาสมัครเป็นอาสากาชาดเพื่อช่วยทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม เคลื่อนที่ตระเวนรักษาไปตามหน่วยต่างๆ

มารี กูว์รี ไม่ยอมจดสิทธิบัตรสำหรับสิ่งที่เธอค้นพบ ซึ่งสามารถทำให้เธอเป็นเศรษฐีได้อย่างรวดเร็ว แต่เลือกที่จะมอบสิ่งที่เธอค้นพบให้กับชาวโลก โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว

น่าเสียดายที่ตัวเธอเองต้องมาล้มป่วยเพราะผลจากการทำงานหนัก และโดนรังสีเรเดียมที่ได้สัมผัสกับตัวเองมายาวนาน ทำให้กระดูกสันหลังถูกทำลายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังการเสียชีวิตของ มารี กูว์รี ลูกสาวของเธอ อีแรน ฌอลีโย-กูว์รี ได้ค้นคว้างานวิจัยของเธอต่อไป จนประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา

ได้ศึกษาประวัติของเธอ และเห็นถึงการอุทิศตัวเพื่อมนุษยชาติของเธอแล้วน่าทึ่งจริงๆ

แม้เวลาจะผ่านพ้นมานานมากกว่าหนึ่งร้อยปี แต่ก็เห็นสมควรอย่างมากที่ มารี กูวรี ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงเปลี่ยนโลกที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก!!!

โดย  Suttichai Taksanun