การก้าวขึ้นเป็นซีอีโอแห่ง Bollant Industries บริษัทผลิตแพ็กเกจผลิตภัณฑ์แบบอีโค ที่มีโรงงานผลิต 4 แห่งในอินเดีย รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านรูปี (ประมาณ 250 ล้านบาท) ในวัยยังหนุ่มยังแน่นเพียง 23 ปี ทำให้ชื่อของ "ศรีขันธ์ บอลลา" ผู้นี้ได้รับความชื่มชมเป็นอย่างมาก แต่นั่นยังไม่ใช่เหตุผลสำคัญเท่ากับการที่เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเขานั้นเป็นผู้พิการ

          ดวงตา เว็บไซต์ Oddity Central เผยเรื่องราวชีวิตของซีอีโอหนุ่มผู้นี้ว่า ศรีขันธ์ตาบอดมาแต่กำเนิด พ่อแม่ของเขาซึ่งมีฐานะยากจนได้รับคำแนะนำมากมายให้ทอดทิ้งเขาไปเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระ แต่โชคดีเหลือเกินที่พ่อแม่ของศรีขันธ์ไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาเลี้ยงดูลูกชายขึ้นมาอย่างดีด้วยความรักอย่างเหลือล้น มันมากเสียจนศรีขันธ์กล้าพูดว่า "พ่อแม่คือคนที่มั่งคั่งที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จักมาในชีวิต" 

          แม้จะมีรากฐานชีวิตครอบครัวที่แสนดี แต่ชีวิตของศรีขันธ์ก็ไม่ได้สวยงามนัก เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนในหมู่บ้านไม่ยอมรับเขา กระทั่งศรีขันธ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ ที่นั่นเปิดโลกให้เขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย เขาเรียนรู้ที่จะเล่นหมากรุกและคริกเก็ต อันนับว่าท้าทายความสามารถของเด็กชายตาบอดไม่เบา และที่นั่นเขาก็ได้พบกับคุณครูที่ช่วยทำสื่อการเรียนการสอนเสียงให้ ช่วยให้เขาได้เรียนรู้สั่งสมวิชา จนสำเร็จการศึกษามาได้

           แต่หนทางสู่ระดับมหาวิทยาลัยก็ไม่สดใสอย่างที่หวัง แม้ว่าคะแนนสอบของเขาจะดีเป็นที่น่าพอใจมาก แต่ศรีขันธ์ก็ถูกสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดียปฏิเสธรับเข้าศึกษาต่อ เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนตาบอดเท่านั้น แต่ในที่สุด เขาก็พยายามจนได้เข้าศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์อันโด่งดังที่สหรัฐอเมริกา และตั้งใจร่ำเรียนจนจบการศึกษาเมื่อปี 2555

          หลังจากนั้นศรีขันธ์ก็กลับมายังอินเดียบ้านเกิด พร้อมความมุ่งมั่นจะตั้งบริษัทที่จ้างผู้พิการที่ต้องเผชิญชะตาชีวิตเยี่ยงเขามาเป็นพนักงานให้จงได้ และนั่นก็กลายเป็นจุดกำเนิดของ Bollant Industries ที่มีสำนักงานอยูในกรุงไฮเดอราบัด ศรีขันธ์ได้ก่อตั้งมันขึ้นมาร่วมกับ สวรรนาลาธา คุณครูใจดีที่กลายเป็นทั้งที่ปรึกษาและเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาไปแล้วนั่นเอง 

          สวรรนาลาธาเป็นคนคอยฝึกสอนพนักงานผู้พิการ และนั่นก็ได้สังคมผู้พิการเล็ก ๆ ขึ้นมา ที่ซึ่งพวกเขารับรู้ถึงคุณค่าและความสามารถที่ตัวเองมี ตัวนางสวรรนาลาธานั้นก็ชื่นชมอดีตลูกศิษย์คนเก่งคนนี้อย่างมาก เขาไม่เพียงเป็นแรงบันดาลใจดี ๆ ให้ผู้พิการคนอื่น ๆ แม้แต่ตัวเธอเองก็ได้รับแรงบันดาลใจและพลังบวกจากศรีขันธ์ด้วย 

         ความพยายามและความสำเร็จอันน่าประทับใจของศรีขันธ์ ซีอีโอหนุ่มผู้ตาบอดคนนี้ ได้ดึงดูดนักธุรกิจให้มาลงทุนกับบริษัทของเขา ด้วยความเชื่อมั่นที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจริง ๆ ว่า ความไม่สมบูรณ์ทางกายไม่อาจเป็นอุปสรรคสู่ความสำเร็จได้เลย

          "ความเอื้ออาทรกันมันไม่ใช่แค่การให้เงินขอทานตรงสี่แยก แต่มันเป็นการทำให้เขาเห็นว่าเขาจะใช้ชีวิตได้อย่างไร มอบโอกาสให้เขาเติบโต การเมตตาอาทรผู้อื่นทำให้ผู้คนมั่งคั่งได้นะครับ คิดถึงคนอื่นมาก ๆ ขจัดความว้าเหว่ของพวกเขาไป และทำแต่สิ่งดี ๆ แล้วท้ายที่สุด มันก็จะสะท้อนกลับคืนมาหาคุณเองครับ" ศรีขันธ์ กล่าว

ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก Srikanth Bolla, INKtalks 

ขอขอบคุณแหล่งข่าว : http://hilight.kapook.com/view/135688

อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจได้สที่ http://hilight.kapook.com