ท่านเชื่อหรือไม่ว่า วิบากกรรมที่เราทำผ่านมานั้นมีมากมาย ทำให้เราต้องเกิดมาหลายภพหลายชาตินับไม่ถ้วน แล้วส่วนใหญ่ก็จะดำเนินชีวิตผิดพลาดกันทุกชาติ บางชาติมาก บางชาติน้อย เป็นเพราะเราไม่รู้

พระท่านสอนว่า

“เพราะว่ามี อวิชชา (ความไม่รู้) เข้ามาบดบัง ซึ่งเป็นธรรมธาตุอย่างหนึ่งที่มาบดบังเอาไว้ มาหุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อน ร้อยไส้ บังคับธาตุธรรมเห็นจำคิดรู้ของเรา จนกระทั่งเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

เหมือนตกอยู่ในความมืด ไม่รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตว่ามาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายชีวิต หรือจะไปสู่เป้าหมายของชีวิตนั้นได้อย่างไร ไม่รู้ว่ามีพระรัตนตรัยในตัวไม่รู้จักที่พึ่งที่ระลึก มิหนำซ้ำยังไปตรึกไปนึกในสิ่งที่ไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง

เคยมีคนที่ตายแล้วฟื้นมาเล่าเรื่องราวความลับของการเวียนว่ายตายเกิดอยู่หลายท่านไม่ว่าจะเป็น พ.อ.(พิเศษ)เสนาะ จินตรัตน์, พลโทสมานวีระไวทยะ, ครูบุญชูศรีผ่อง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลสามารถ search หาข้อมูลได้ใน youtube

แต่ถ้าหากท่านไม่เชื่อเรื่องราวของผู้ตายแล้วฟื้น ที่ได้กลับมาบอกความจริงของชีวิต ก็จะมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะได้รับรู้ความลับของชีวิตได้ด้วยตัวเอง คือต้องหยุดใจให้ได้ หยุดใจได้เมื่อไร สิ่งที่เป็นความลับของชีวิตก็จะถูกเปิดเผย

คนเราจะหยุดใจได้ต้องผ่านการฝึกปฏิบัติ คือทำตัวให้อยู่ในศีลในธรรม พร้อมกับทำจิตใจให้สงบ สงบได้เมื่อไหร่ แม้หลับตาก็ไม่มืด เพราะมีความสว่างเกิดขึ้นภายใน มองผ่านแสงสว่างภายในไป เดี๋ยวก็จะพบสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของเรา เราก็จะเปลี่ยนจากผู้ไม่รู้ มาเป็นผู้รู้ทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่มีความลับของชีวิตอีกต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูล : วิชาการ 01, 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ขอขอบคุณรูปภาพ : ความลับ